ไนโตรเจนเป็นธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการเพื่อเจริญเติบโต แต่ในช่วงฤดูฝน การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะฝนที่ตกต่อเนื่องอาจชะล้างไนโตรเจนออกจากหน้าดินก่อนที่พืชจะดูดซึมได้ ส่งผลให้พืชขาดธาตุอาหาร และสิ้นเปลืองต้นทุนปุ๋ยโดยไม่จำเป็น
1. รูปแบบไนโตรเจนในปุ๋ย
- ไนเตรต (NO₃⁻): ละลายน้ำเร็ว ดูดซึมง่าย แต่ถูกชะล้างง่ายเช่นกัน
- แอมโมเนียม (NH₄⁺): ยึดเกาะในดินได้ดีกว่า แต่ยังคงมีโอกาสสูญเสียในดินเปียก
- ยูเรีย: ต้องแปลงเป็นแอมโมเนียก่อน พืชจึงจะใช้ได้
2. ปัญหาไนโตรเจนในฤดูฝน
- ปุ๋ยถูกน้ำฝนชะล้างลงใต้ชั้นราก
- ไนโตรเจนระเหยเป็นก๊าซในสภาพดินชื้นมาก
- พืชดูดซึมไม่ทัน ทำให้มีอาการใบเหลืองหรือโตช้า
3. เทคนิคการจัดการปุ๋ยไนโตรเจนในฤดูฝน
- แบ่งใส่ปุ๋ยเป็นระยะ (Split Application) แทนการใส่ครั้งเดียว
- ใส่ปุ๋ยหลังฝนหยุด 1-2 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกชะล้างทันที
- คลุมดินด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง ช่วยรักษาความชื้นและลดการไหลบ่าของน้ำ
- ใช้ปุ๋ยที่มีการเคลือบชั้นชะลอการละลาย เช่น ยูเรียเคลือบซัลเฟอร์
เคล็ดลับ: ปุ๋ยคอกหมักร่วมกับปุ๋ยเคมีไนโตรเจน สามารถช่วยลดการสูญเสียและเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้ดิน
การจัดการปุ๋ยไนโตรเจนในฤดูฝนจำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างเพียงพอ และลดการสูญเสียทางสิ่งแวดล้อมและต้นทุน ด้วยการเลือกใช้รูปแบบปุ๋ยที่เหมาะสม และใส่ในเวลาที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตดีแม้ในสภาพฝนตกต่อเนื่อง